สำหรับบทความนี้ เราจะพาทุกท่านไปสัมผัสกับศิลปะล้านนา สุดวิจิตรงดงามผ่านโบราณสถานและสถาปัตยกรรมภายในวัด และวัดที่เราจะไปทุกท่านไปนมัสการเที่ยวชมความวิจิตรงดงามดังกล่าวเป็นวัดที่มีอายุกว่า 400 ปี วัดดังกล่าวสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2070 เมื่อมาถึงปีนี้คือ ปี พ.ศ.2564 วัดดังกล่าวก็มีอายุร่วม 494 ปี (แม้ว่าจะมีบางช่วงที่วัดถูกทิ้งร้าง แต่ภายหลังก็มีการบูรณะคงไว้ซึ่งความวิจิตรตามแบบฉบับล้านนาดั้งเดิมของการออกวัดแห่งนี้) วัดที่เรากล่าวถึงก็คือ วัดโลกโมฬี วัดที่ตั้งอยู่เลยจากคูเมืองเชียงใหม่ิไปเล็กน้อย ทำความรู้จัก วัดโลกโมฬี วัดเก่าแก่ คู่เมืองเชียงใหม่ โดยวัดโลกโมฬีตั้งอยู่บนถนนมณีนพรัตน์ ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ทุกท่านสามารถเดินทางมาด้วยรถสองแถวสีแดงสัญลักษณ์อีกหนึ่งอย่างของจังหวัดเชียงใหม่ แล้วบอกจุดหมายปลายทางเป็นวัดโลกโมฬีนี้ได้เลย หรือ หากเพื่อนๆ มาด้วยรถยนต์ส่วนตัวทางวัดโลกโมฬีก็มีที่จอดรถซึ่งเป็นพื้นโรยกรวดคอยอำนวยความสะดวกให้ด้วย (ส่วนนี้หากท่านใดมีวีลแชร์สามารถขออนุญาติทางวัดไปจอดส่งวีลแชร์บริเวณพื้นปูนที่เรียบกว่าก่อนได้ เพราะในส่วนที่จอดรถที่โรยกรวดนี้จะเข็นยากสักหน่อย) ถัดมาเมื่อเราเข้ามาภายในวัดจะพบกับวิหารหลวงวัดโลกโมฬีซึ่งเป็นวิหารไม้สักที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนาดั้งเดิมมีการใช้กระจกสีต่างๆ มาประดับยังวิหารแห่งนี้ซึ่งสร้างความวิจิตรอย่างยิ่งเนื่องด้วยวิหารดังกล่าวมีพื้นเป็นสีดำการตกแต่งด้วยกระจกสีต่างๆ จึงเพิ่มความวิจิตรตระการตาให้แก่วิหารเพิ่มเข้าไปอีก ส่วนพระประธานที่ประดิษฐานประจำวิหารแห่งนี้คือพระพุทธสันติจิรบรมโลกนาถ ซึ่งในองค์พรุพุทธรูปนี้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้บนพระเมาลี นอกจากนี้วัดโลกโมฬีแห่งนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานของพุทธรูปพระนางจิระประภามหาเทวี
ที่เที่ยวแพร่ ธรรมชาติสวยงาม สุดตื่นตา บรรยากาศดี เคล้ากลิ่นล้านนา
แพร่เป็นเมืองรองของการท่องเที่ยวทางภาคเหนือที่ให้บรรยากาศเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากเชียงใหม่ในแบบที่ใครชื่นชอบบรรยากาศการท่องเที่ยวเคล้ากลิ่นอายล้านนาควรไปเยี่ยมชมให้ได้สักครั้ง โดยเฉพาะเมื่อที่เที่ยวแพร่ยังคงความสดใหม่ของธรรมชาติเอาไว้ได้มาก และเหล่านี้คือ 3 ที่เที่ยวแพร่ ที่น่าไปเยี่ยมเยือนให้ได้สักครั้ง แนะนำ 3 ที่เที่ยวแพร่ ที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ ที่โดงดัง ถ้ำผานางคอย นี่เป็น ที่เที่ยวแพร่ ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่มีความน่าอัศจรรย์ที่สุดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางอำเภอร้อยกวาง ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้จะมีลักษณะเป็นถ้ำสูงมีหินงอกหินย้อยงดงาม และเมื่อปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวมากขึ้นด้วยการจัดแสงสะท้อนความงามของหินงอกหินย้อยออกมาได้อย่างน่ามอง ส่วนจุดเด่นที่ต้องไม่พลาดก็ต้องเป็นหินนางคอย ชื่อเดียวกับถ้ำที่เป็นหินรูปร่างคล้ายหญิงสาวนั่งอุ้มลูกรอคอยคนรัก ซึ่งมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับหินก้อนนี้อยู่มากมาย และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ขึ้นชื่อของอำเภอนี้ และถ้าเราได้ไปถ้ำนางคอยในช่วงสงกรานต์ของทุกปีก็จะได้พบกับงานประจำปีของถ้านางคอยด้วย ปงท่าข้าม หากเราคุ้นเคยกับที่ท่องเที่ยวอย่างสะพานไม้ไผ่ทอดยาวกลางนาข้าวสีเขียวชะอุ่มกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาแล้วละก็ ต้องไม่พ้น ที่เที่ยวแพร่ ที่นี่แน่ ๆ ‘ปงท่าข้าม’ หรือ ‘ขัวแตะ’ อยู่ห่างจากเมืองแพร่ออกมาทางสูงเม่นเพียง 20 นาที เราก็จะได้เดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางทุ่งนากลางอ้อมกอดของขุนเขา ให้ได้บรรยากาศแบบสดชื่นสุด ๆ ยิ่งหากมาในช่วงฤดูฝนที่นาข้าวเขียวชะอุ่ม มีไอหมอกบาง